ในฐานะนักปลูก ป้านิต-นิตยา ช้างศรี คือเกษตรกรเจ้าของ ‘สวนป้านิต’ สวนที่เพาะปลูกพืชผักตามแนวทางเกษตรธรรมชาติ เครือข่ายเอ็มโอเอไทย จังหวัดสระแก้ว ที่ชีวิตประจำวันในทุกวันที่ไม่ได้นำผลผลิตไปขายที่ตลาดเขียวโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว คือการดูแลผักที่ตัวเองปลูกเอาไว้ในสวนที่อยู่ไม่ไกลจากตัวบ้าน
และเป็นอันรู้กันว่าหากต้องการพบตัวป้านิต จะพบได้ที่แปลงผัก เพราะป้านิตจะลงสวนลงแปลงตั้งแต่ตีห้าครึ่ง กว่าจะกลับเข้าบ้านก็หลังหกโมงเย็นไปแล้ว
“แปลงที่ป้านิตทำเกษตรอยู่มีสามไร่ แต่เพาะปลูกสองไร่ ปลูกผักชะอม คะน้า สลัด ฯลฯ เราปลูกตามฤดูกาล พอหน้าหนาวก็จะมีกะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บร็อกโคลี มะเขือเทศ แล้วในสองไร่นี่ยังมีไม้ผลด้วยนะ ป้าปลูกมะพร้าว มะนาว เซียนท้อก็ได้เอาไปขายแล้ว”
เพราะการปลูกตามฤดูกาล จะได้ผลผลิตที่งามกว่าปลูกนอกฤดู ยิ่งเป็นการปลูกด้วยแนวทางเกษตรธรรมชาติ ที่ใช้เพียงแค่ปุ๋ยจากการหมักใบไม้และปุ๋ยพืชสดในการปรับปรุงดิน แล้วปล่อยให้ผักในแปลงเติบโตอย่างธรรมชาติด้วยแล้ว ผักจะแข็งแรงและเติบโตได้ดี
“เกษตรธรรมชาติเราจะไม่ได้ปลูกมากมายเป็นร้อยไร่พันไร่ คนหนึ่งปลูกได้เต็มที่ก็แค่หนึ่งไร่สองไร่ แต่เป็นการปลูกแบบคุณภาพ เราต้องคอยดูแลถอนหญ้า พรวนดิน ต้องใส่ใจ”
ความใส่ใจของป้านิต ออกดอกออกผลเป็นผลผลิตที่ออกจำหน่ายร่วมกับเกษตรกรเครือข่ายเอ็มโอเอไทย จังหวัดสระแก้ว หมุนเวียนกันมาจำหน่ายอีกหลายครอบครัว ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ชาวสระแก้วจะซื้อหาผลผลิตเหล่านี้ได้ที่ตลาดเขียว โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว โดยลูกค้ากลุ่มหลักจะเป็นบุคลากรของโรงพยาบาล และผู้มารับบริการในโรงพยาบาล และได้รับความนิยมชนิดที่เรียกได้ว่าผลผลิตไม่พอจำหน่าย
แต่ถึงอย่างนั้น ทุกวันศุกร์ที่มีตลาดเขียวจตุจักร ป้านิตและเพื่อนเกษตรกรในเครือข่าย ก็ได้แบ่งเวลาและผลผลิตจากสระแก้วมาจำหน่ายให้ชาวกรุงเทพฯ ได้จับจ่ายกันด้วย
“เกษตรกรเครือข่ายเอ็มโอเอไทยสระแก้วที่มาด้วยกันก็จะมีสวนนานาพันธุ์ สวนสามกอ เกษตรธรรมชาติ ชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา สวนป้านิต และมีเครือข่ายเอ็มโอเอไทยจากลพบุรีมาด้วย แต่มีผลผลิตมาจากอีกสามจังหวัดคือเชียงใหม่ เชียงราย อุตรดิตถ์มาสมทบ”
ป้านิตจะประจำอยู่ที่ร้านของชมรมผู้ปกครองผู้พิการทางสติปัญญา ซึ่งร้านนี้จะมีผลผลิตของสวนป้านิตและสวนนานาพันธุ์จำหน่ายอยู่ด้วยกัน เมี่ยงดอกบัวของสวนนานาพันธุ์ คือเมนูประจำที่หลายคนติดใจ และยังมีผลผลิตเป็นผักผลไม้ตามฤดูกาล
แต่นอกจากพืชผักผลไม้ปลอดสาร ที่ร้านนี้ยังมีอาหารปรุงพร้อมกินฝีมือป้านิตให้เราคอยลุ้นว่า ศุกร์นี้จะมีอะไร จะมีผัดไทย สุกี้แห้ง มียำแหนมเห็ด เทมปุระผัก หรือลาบเพกา มาให้เราได้ชิมอีกหรือเปล่า
“เมนูแต่ละศุกร์ก็ขึ้นกับว่าช่วงนี้มีผักอะไร แล้วจะทำอะไรดี อย่างฝักเพกาเราขายสดไม่ค่อยได้ ต้องทำยังไงให้คนยอมเปิดใจลอง เราก็ทำเป็นลาบเพกา ผู้บริโภคเขาก็สนใจว่าลาบเพกามีขั้นตอนการทำยังไง เราก็ให้คำแนะนำ
ลาบเพกาจากต้นที่สวนของป้านิต กลายเป็นไอเดียให้คนซื้อได้เอาไปทำต่อ เพราะวิธีทำก็ไม่ยากเลย คั่วพริก หอม และข่า ถ้าอยากใส่เนื้อสัตว์ก็แนะนำว่าเป็นปลาทูโขลกรวมกัน แล้วใส่ลงน้ำเดือด มีเครื่องลาบเป็นต้นหอม ผักชี ข้าวคั่ว พริกป่น ฝักเพกาสดนำมาซอยเป็นชิ้นบางแช่น้ำเกลือเพื่อลดความขม คลุกเคล้าจนได้ลาบเพกาที่มีรสชาติเฉพาะตัว
หรือสุกี้แห้งที่ขายดีชนิดถ้าวันไหนไม่มีต้องมีคนถามถึง ป้านิตทำเป็นสุกี้ที่ใช้ไข่และผักต่างๆ ที่ปลูกเองและจากเครือข่ายเกษตรกรในตลาด ทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้มสุกี้ซึ่งป้านิตดัดแปลงจากที่เคยได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการทำซอสมะเขือเทศจากชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิดของเอ็มโอเอ มาทำเป็นซอสพริกศรีราชาซึ่งใช้พริกหยวกบ้านกลับของเกษตรกรเอ็มโอเอลพบุรีมาเป็นวัตถุดิบหลัก นอกจากนี้ยังมีกานาฉ่าย ผักกาดดอง ซึ่งแปรรูปจากผักของเครือข่าย เป็นการช่วยลดของเสียจากผักที่ขายไม่หมดในวันนั้นๆ ด้วย
เบื้องหลังความอร่อยของรสมือป้านิต คือพื้นฐานการทำอาหารที่มีอยู่ติดตัว และคิดค้นทดลองเมนูใหม่ๆ ร่วมกันของเครือข่าย
“แต่เดิมป้าทำอาหารที่ร้านอาหารของเอ็มโอเอไทยอยู่แล้ว และเปิดสอนทำอาหารให้กับเอ็มโอเอไทยด้วย เราคิดค้นทดลองสูตรโดยทำ MOU ร่วมกับศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนสระแก้ว และโรงเรียนบรรจงลักษณ์ที่ลพบุรี ทดลองจนสูตรคงที่ก็จะเผยแพร่ให้กับเครือข่ายเอ็มโอเอไทยในจังหวัดต่างๆ”
และป้านิตก็พร้อมจะแบ่งปันสูตรเหล่านั้นให้กับคนที่สนใจไถ่ถาม “ผู้บริโภคที่ตลาดเขียวจตุจักรจะมีความเข้าใจในผลผลิตเกษตรธรรมชาติหรืออินทรีย์อยู่แล้ว สิ่งที่เขาตื่นตาตื่นใจจึงเป็นเรื่องที่ว่า ผักชนิดนี้เอามาทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ แล้วต้องทำยังไง”
การได้รู้จักเมนูใหม่ๆ จากผักที่เพิ่งรู้จักหรือรู้จักอยู่แล้วผ่านอาหารพร้อมกินเหล่านี้ จึงเป็นการแบ่งปันความรู้ในการสร้างสรรค์เมนูที่ดีต่อสุขภาพ ให้ผู้บริโภคนำไปปรุงกินเองได้
แม้จะต้องเดินทางข้ามจังหวัดมาเปิดหน้าร้านที่ตลาดเขียวจตุจักรทุกวันศุกร์ ป้านิตก็ไม่เคยรู้สึกว่าเป็นเรื่องลำบาก “ไม่เหนื่อย สนุก การมาขายที่นี่ทำให้ผู้บริโภคได้กินของแท้ของจริงจากเกษตรกรที่ปลูกผักกันแบบใส่ใจจริงๆ เกษตรกรก็มีรายได้ เกษตรกรบางคนบอกว่ามาที่นี่แล้วเขามีความรู้สึกดีๆ เยอะแยะกับผู้บริโภค การที่ผู้บริโภคมาสนับสนุนและน่ารักกับผู้ผลิต เขาก็ดีใจแล้ว”
ภาพ: ตลาดเขียวจตุจักร