การปกป้องตัวเราเองให้ห่างไกลจากโรคร้ายนั้น สิ่งที่ทำได้ง่ายดายที่สุดก็คือ การกินให้ถูกต้อง ซึ่งการกินให้ถูกต้องเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้เองไม่ยาก
ทั้งนี้ ดร.ผาสุข แก้วเจริญตา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ได้เปิดเผยวิธีการกินที่เหมาะสมเอาไว้ โดยใช้ชื่อว่า หลักการกินแบบ “5ก 4ล” ซึ่งประกอบไปด้วยรายละเอียดต่างๆ ได้แก่
5ก ที่ว่าด้วยการกิน
กินเป็น คือ การกินที่ไม่ใช่แค่ให้อิ่ม แต่ต้องกินอย่างฉลาด รู้จักร่างกาย กลไกความหิว และการใช้พลังงานจากอาหารที่กินในแต่ละมื้อ ต้องรู้ว่า เป้าหมายของการกิน คือ เพื่อให้ได้เอนไซม์ต่างๆ ที่ทำให้ร่างกายฟื้นฟูสภาพ
กินง่าย ไม่ได้หมายความว่ากินอะไรก็ได้ แต่ให้กินอาหารสดที่สุด แปรรูปน้อยที่สุด และสะอาดที่สุด เพื่อให้ร่างกายนำสารอาหารที่มีประโยชน์ไปใช้ ทั้งนี้ ควรกินอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบเหมือนต้นกำเนิดมากที่สุด เพราะจะช่วยให้ร่างกายได้รับเอนไซม์และนำมาใช้ประโยชน์ได้เต็มที่
กินภายใต้วัฒนธรรม เป็นการกินที่สัมพันธ์กับธาตุทั้ง 4 และฤดูกาล หรือสภาพภูมิอากาศ เป็นการกินที่ทำให้เกิดภูมิต้านทานตามธรรมชาติ เกิดการป้องกันโรค และเป็นการกินเมนูที่เป็นภูมิปัญญาของคนในพื้นที่ ปรุงด้วยผักหลากหลายตามพื้นถิ่นนั้นๆ
กินตามกิจกรรมที่ใช้ ใน 1 วันเราต้องการพลังงาน เพื่อให้ดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยที่ระบบการเผาผลาญของร่างกายยังทำหน้าที่ได้ปกติ คือ 1,500 แคลอรี บวกกับพลังงานที่เราต้องกินเพิ่มตามกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันอีก 300 แคลอรี รวมแล้วในแต่ละวัน เราควรกินอาหารที่ให้พลังงานรวมทั้งสิ้น 1,800 แคลอรี
กินให้เป็นยา ง่ายที่สุดก็คือกินผัก เพราะในผักมีสารประกอบทางชีวภาพ ซึ่งเป็นสารเคมีธรรมชาติที่ช่วยบำรุงร่างกาย รวมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงสุดมาช่วยป้องกันโรคต่างๆ
4ล : ลด ละ เลิก และเลี่ยง
ลดแป้ง เพราะให้ผลดีต่อการลดน้ำหนักและลดความเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวาน ซึ่งการลดแป้งที่ได้ผลต่อการลดน้ำหนักถาวรมี 3 วิธี คือ
- การลดแป้งแบบคีโตเจนิค โดยกินอาหารในกลุ่มไขมันเป็นพลังงานหลัก
- ลดแป้งแบบแอตคินส์ คือ ลดการกินคาร์โบไฮเดรต ทำให้ลดความอยากอาหาร และใช้ไขมันที่สะสมไว้ ทำให้น้ำหนักลดลง
- ลดแป้งแบบพาเลโอ เป็นการเน้นกินอาหารจำพวกเนื้อสัตว์, พืชผักผลไม้ และอาหารไม่ปรุงแต่ง โดยไม่ต้องอดอาหาร
ละหวาน เช่น เครื่องดื่ม, ขนมหวาน หรืออาหารที่มีความหวาน รวมถึงน้ำตาลฟรุกโตสที่มีอยู่ในผลไม้รสหวานและน้ำผึ้งด้วย ขณะเดียวกัน ก็ควรกินผลไม้ให้หลากหลาย เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป
เลิกสารปรุงรสและไขมันทรานส์ เนื่องจากสารปรุงรสมีปริมาณโซเดียมสูง ส่วนไขมันทรานส์ก็เป็นไขมันชนิดอันตราย เพราะเป็นไขมันไม่อิ่มตัวที่เกิดจากการสังเคราะห์ขึ้น ส่งผลต่อการทำงานของระบบเอนไซม์ในร่างกาย
เลี่ยงท้องผูก โดยพยายามกินอาหารที่รักษาส