ผู้ตรวจสอบความเค็ม ‘Salt Meter’ กับภารกิจช่วย ‘ชุมชนลดเค็ม’ ให้กินเค็มลดลง

ผู้ตรวจสอบความเค็ม ‘Salt Meter’ กับภารกิจช่วย ‘ชุมชนลดเค็ม’ ให้กินเค็มลดลง

เมนูอาหารในทุกวันนี้ ส่วนใหญ่มีมักมีส่วนผสมของโซเดียม ซึ่งมีทั้งรสเค็มและไม่เค็ม อย่างที่ให้รสเค็มก็คือ เกลือ ซอสปรุงรส ผงปรุงรส น้ำปลา น้ำปลาร้า น้ำพริก น้ำมันหอย ซีอิ้ว

ส่วน ‘ไม่เค็ม’ ก็มักมาในรูปแบบแฝงตัวอย่างผงชูรส หรือมาในรูปแบบของอาหารปิ้งย่าง บุพเฟ่ต์ อาหารหมักดอง น้ำซุปต่างๆ เมนูสุดโปรดของผู้ใหญ่ รวมไปถึงขนมกรุบกรอบ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊กซองหรือแบบถ้วย ซึ่งสะดวกสบาย กินง่ายและเป็นของอร่อยของเด็กๆ

S 3063893 edited Gindee Club กินดี คลับ

ความเค็มที่แฝงเข้ามาในชีวิตประจำวันของผู้คน ทำให้ผู้ที่ไวต่อความเค็มอย่างผู้สูงอายุ และคนที่มีโรคประจำตัว อาจเกิดอาการตาบวม ขาบวม ความดันโลหิตขึ้น ปวดหัว ส่วนคนทั่วไปอาจเกิดอาการหิวน้ำบ่อยหลังจากได้รับโซเดียมในปริมาณมาก รวมทั้งยังมีความเสี่ยงทำให้เกิดโรคไตหรือไตวายเร็วขึ้น

จากเดิมที่อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุเฉลี่ย 50-60 ปี กลายเป็นจู่โจมวัยทำงานอายุเฉลี่ย 35 – 40 ปี ซึ่งส่วนใหญ่มีผลมาจากพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไป

จากปัญหาในเชิงสุขภาพของคนไทยที่กล่าวมาข้างต้น รศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็ม ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า

“ปัจจุบันคนไทยกินเค็มแบบไม่รู้ตัวมากขึ้น บางครั้งเราบอกแม่ค้าแล้วว่าไม่ใส่ผงชูรส แต่ก็มีปนอยู่ในน้ำซุปมาตั้งแต่แรก การกินเค็มส่งผลทำให้เกิดความโรค NCDs เช่น ความดันโลหิตสูง และโรคโต เริ่มเกิดขึ้นในกลุ่มวัยกลางคน ที่กำลังเป็นหัวหน้าองค์กร และเป็นกำลังของชาติ บางรายอายุเพียง 40 ปีเกิดอาการไตวาย ต้องฟอกเลือด สาเหตุจากโรคความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง”

“ดังนั้นการรณรงค์เรื่องลดเค็ม จึงไม่ใช่เพียงเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ แต่ต้องหันกลับมารณรงค์ในกลุ่มคนหนุ่มสาวให้มากขึ้น ผ่านการรณรงค์ที่มีทั้งในรูปแบบของ ‘Air War’ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเราทุกคน โดยมีหัวเรือใหญ่คือสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

“และสิ่งที่ต้องทำตอนนี้ก็คือ ‘Ground War’ เน้นชุมชน ในพื้นที่บริการสุขภาพ เขต 1, 2, 3, 8 และ 10 ซึ่งทำงานร่วมกับกรมควบคุมโรคมากว่า 2 ปี และได้รับผลที่ดีมาโดยตลอด”

S 3063894 edited Gindee Club กินดี คลับ

ปฏิบัติการ Ground War ได้มีการนำเครื่องมือขนาดเล็กอย่างเครื่องวัดความเค็ม (Salt Meter) ผลิตโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่มีคุณภาพ มีความแม่นยำ 100% และใช้งานง่ายโดยไม่ต้องส่งห้องปฏิบัติการทางอาหาร มาเป็นเครื่องมือตรวจสอบปริมาณโซเดียมของอาหาร โดยมีเป้าหมายเพื่อมุ่งเน้นให้เกิด ‘ชุมชนลดเค็ม’ ในรูปแบบของการศึกษาและงานวิจัย

โดยทางเครือข่ายลดบริโภคเค็ม ได้ทำงานร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลเชิงปริมาณ ผ่านวิธีการทดลองควบคุมแบบสุ่มแบบคลัสเตอร์ในพื้นที่อำเภอทับเที่ยง จังหวัดอุทัยธานี ด้วย ‘ชุดมาตรการลดบริโภคเค็ม’

ประกอบไปด้วยการให้ความรู้ การปรับสูตรอาหาร การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม ทั้งในบ้าน ร้านค้า รวมทั้งในชุมชน พร้อมการใช้เครื่องตรวจวัดโซเดียมคลอไรด์ในอาหาร (Salt Meter) และให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) นำไปใช้เป็นเครื่องมือในการเฝ้าระวังผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อโรคไต ให้คำแนะนำกับผู้ที่ชอบรับประทานอาหารรสเค็ม ผู้ที่มีปัญหาโรคไต รวมถึงความดันโลหิตสูง

“จากการทำงานร่วมกับชุมชน และเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์ อสม. ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพเมื่อปีที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มเป้าหมายมีค่าความดันโลหิตลดลง ค่าความเค็มในปัสสาวะลดลง แสดงว่า คนกินเค็มน้อยลง”

เมื่อชุดมาตรการลดบริโภคเค็ม และเครื่องมือ salt meter แสดงให้เห็นว่า สามารถทำหน้าที่ได้ดีในกลุ่มเป้าหมายหลักอย่างผู้ป่วย เป้าหมายต่อไปก็คือ การนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ในบุคคลทั่วไปโดยเฉพาะวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคความดันโลหิตสูง ที่ต้องรักษาและกินยาไปตลอดชีวิต รวมทั้งการใช้มาตรการเดียวกันในกลุ่มผู้ผลิต เพื่อสื่อสารให้กับผู้บริโภคได้รับรู้ถึงพิษภัยของความเค็มแฝง และลดเค็ม ลดโรคได้จริง

“การลดเค็มจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน โดยเฉพาะภาคผู้ผลิต ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ศูนย์อาหาร รวมถึงเมนูอาหารในภาคอุตสาหกรรม ที่จะนำมาตรการเดียวกันมาใช้เพื่อลดปริมาณโซเดียมในอาหาร ส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้รับความรู้ความเข้าใจในเรื่องการลดเค็มเพื่อสุขภาพมากขึ้น รวมทั้งการได้รับความร่วมมือจากสื่อมวลชนทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ และเราทุกคน”

tag:

ผู้เขียน

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscribe

ติดตามข่าวสาร Gindee Club

About Gindee Club

Connect us

Copyright © 2023 Gindee Club. All right reserved.