มอส. ต่อยอดโมเดล BCG พิชิตความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน

มูลนิธิสร้างเสริมวิถีบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ (มอส.) ขับเคลื่อนโมเดล BCG พลิกวิกฤติเป็นโอกาส พิชิตความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน

ด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น ความต้องการอาหารทั่วโลกจึงเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของจำนวนประชากรและจำนวนการบริโภค ปัจจัยเหล่านี้จึงส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารที่คนทุกระดับจะสามารถเข้าถึงอาหารได้อย่างเพียงพอ มีความปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งในทางกายภาพและทางด้านเศรษฐกิจ

และสิ่งนี้เองที่เป็นต้นทางให้เกิดโมเดลเศรษฐกิจ BCG ขึ้น โดย BCG นั้นมีความหมายถึง เศรษฐกิจชีวภาพ (B-Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (C-Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ในประเทศไทยได้นำโมเดลเศรษฐกิจ BCG เข้ามาเป็นยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ โดยตั้งระยะเวลา 5 ปี คือ 2564-2569

6.2 Gindee Club กินดี คลับ

มูลนิธิเสริมสร้างวิถีบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ (มอส.) นำโดย จงกลนี วิทยารุ่งเรืองศรี ประธานมูลนิธิฯ ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย สสส. ได้นำโมเดลเศรษฐกิจ BCG มาปรับใช้ต่อยอด บูรณาการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตเด็ก เยาวชน และประชาชนในชุมชนต่างๆ ในประเทศไทย พลิกวิกฤติเป็นโอกาส พิชิตความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

โดยยึดโยงโมเดลเศรษฐกิจ BCG กับการตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและผู้บริโภค ที่หลังจากสถานการณ์โควิดยิ่งทำให้ต้องมีการพัฒนาระบบอาหารทั้งในระดับโรงเรียน ระดับแหล่งผลิต-บริโภค อาหารในชุมชนท้องถิ่นใกล้เคียง และเพิ่มประเด็นการพัฒนาที่สูงขึ้น

พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพสถานประกอบการด้านอาหาร ผ่านการพัฒนาแพลตฟอร์มระดับชาติ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการบริการอาหารที่ปลอดภัย มีคุณค่าทางโภชนาการ ดีต่อสุขภาพ และมีความมั่นคงทางอาหารของชุมชน โดยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเมนูอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มวัย มีช่องทางซื้อขายอาหารระหว่างเกษตรกรผู้ผลิตอาหารอินทรีย์ อาหารปลอดภัย อาหารที่ดูแลสิ่งแวดล้อม ผ่านผู้ประกอบกิจการด้านอาหารทุกระดับ

และยังเกิดเป็นแนวคิดของนักวิชาการ ภาคเอกชน และรัฐบาล ในการพัฒนาและปรับเปลี่ยนระบบอาหารในอนาคต ให้เหมาะสม สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจ BCG สาขาเกษตรและอาหาร และ SDGs หรือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ

เผื่อทัมบ์เนล 1 Gindee Club กินดี คลับ

เมื่อปี 2564 มอส. ได้ดำเนินโครงการขับเคลื่อนระบบคุณภาพอาหารและโภชนาการในโรงเรียนและชุมชน และผลักดันงานอาหารโรงเรียนทั้งระบบเข้าสู่กลไกการขับเคลื่อนนโยบายระดับชาติในระยะเริ่มต้น โดยเสนอคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความเชื่อมโยงด้านอาหารและโภชนาการสู่คุณภาพชีวิตที่ดี ภายใต้คณะกรรมการอาหารแห่งชาติ

จัดตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาการบริหารจัดการด้านอาหารและโภชนาการในสถานศึกษาและชุมชน และแต่งตั้งคณะทํางานขึ้น 3 คณะ ได้แก่ คณะทำงานพัฒนามาตรฐานระบบการจัดการอาหารและโภชนาการในโรงเรียน รับผิดชอบโดยมูลนิธิสร้างเสริมวิถีบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ คณะทำงานพัฒนากำลังคนด้านอาหารและโภชนาการ รับผิดชอบโดยสำนักโภชนาการ กรมอนามัย และคณะทำงานพัฒนาระบบการติดตามและประเมินผลภาวะโภชนาการและคุณภาพอาหารของนักเรียน รับผิดชอบโดยสำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน สพฐ. โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกว่า 25 หน่วยงาน

กระทั่งปี 2565 โครงการฯ ได้มีเป้าหมายให้เกิดการขับเคลื่อนงานมาตรฐานระบบในการจัดการอาหารและโภชนาการในสถานศึกษาและชุมชนต่อเนื่อง โดยรับสมัครสถานศึกษาที่สนใจเข้าร่วมนำร่องตามมาตรฐานเพิ่มขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมทุกจังหวัด

มีกระบวนการให้ความรู้ การติดตาม กระตุ้นให้เกิดการส่งเสริมและพัฒนาเชื่อมโยงอาหารปลอดภัยและโภชนาการสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กวัยเรียน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งระดับชาติ ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และชุมชน ไปจนถึงระดับโรงเรียน ที่ได้ความร่วมมือจากนักเรียน-ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้เด็กทุกคนได้รับอาหารเพื่อสุขภาวะที่เหมาะสมตามวัย

โดยวางแผนจะมีการถอดบทเรียนและจัดทำแผนระยะ 10 ปีระหว่างผู้เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาวิธีแก้ปัญหาด้านกฎระเบียบที่จำเป็น หนุนเสริมให้มีการศึกษาพัฒนารูปแบบกลไกการทำงานของระบบอาหารชุมชนจากตำบล อำเภอ สู่ระดับจังหวัด เพื่อสร้างความเข้มแข็งและเกิดความยั่งยืน พร้อมทั้งนำเสนอรูปแบบผลักดันเป็นนโยบายสาธารณะ

6.1 Gindee Club กินดี คลับ

ปัจจุบันมีโรงเรียนที่เข้าร่วมนำร่องกว่า 700 แห่ง ทั้งโรงเรียนในสังกัด กทม. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ สพฐ. กระจายในเกือบทุกจังหวัด ส่งผลให้เด็กวัยเรียนสามารถเข้าถึงอาหารสุขภาวะเพิ่มขึ้น ยกระดับภาวะโภชนาการดีขึ้น และสามารถนำไปขยายผลได้ทั้งโรงเรียนขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศซึ่งมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ศาสนา และสภาพภูมิศาสตร์

และจากการพัฒนาโครงการอาหารและโภชนาการในเครือข่ายเด็กไทยแก้มใสอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลากว่า 6 ปี มอส.ได้ค้นพบว่า ปัจจัยความสำเร็จของโรงเรียน คือการเกิดจุดเปลี่ยนของผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู กรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง นักเรียน ชุมชน เกษตรกร และสถาบันการศึกษาทางวิชาการในพื้นที่มีการทำงานร่วมกัน มีความตระหนักถึงปัญหาของสภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อภาวะโภชนาการของนักเรียนและการจัดการอาหารโภชนาการของโรงเรียน

ซึ่งการพัฒนาโครงการฯ ได้อาศัยกระบวนการบริหารจัดการภายในโรงเรียน ได้แก่ การกำหนดนโยบายของโรงเรียน การแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบที่ชัดเจน การบรรจุเป็นแผนปฏิบัติงานประจำปีของโรงเรียน การจัดการอาหารกลางวัน อาหารเช้าสำหรับนักเรียนขาดแคลน ที่สอดคล้องกับปัญหาด้านทุพโภชนาการและพฤติกรรมด้านสุขภาพของนักเรียน รวมทั้งการบริหารจัดการทรัพยากรด้านบุคลากร องค์ความรู้ และงบประมาณของโรงเรียน

ทั้งนี้ สสส. และ มอส. มีเป้าหมายในการทำงานร่วมกับภาคียุทธศาสตร์ต่างๆ และสถาบันการศึกษา ดำเนินงานที่ลงลึกในรายละเอียด เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาในระดับพื้นที่ มุ่งให้เกิดการขับเคลื่อนระบบคุณภาพอาหารและโภชนาการในโรงเรียนและชุมชนที่มีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น และผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนระบบอาหารเพื่อสุขภาวะ เข้าสู่ระบบงานประจำของโรงเรียนในระยะยาว

โดยเน้นการพัฒนาและสร้างความรอบรู้เรื่องการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ (Food Literacy) แก่ครู นักเรียน และผู้ปกครอง รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาหน่วยจัดการกลางผลผลิตอาหารปลอดภัย เชื่อมโยงจากชุมชนเข้าสู่โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน ร้านค้า และตลาดเขียวในชุมชน เพื่อสร้างแหล่งอาหารปลอดภัยที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย เป็นชุมชนตัวอย่าง

และมีพื้นที่นำร่องขับเคลื่อนระบบอาหารชุมชน ในปี 2564-2565 แล้ว 4 จังหวัด คือเชียงใหม่ น่าน บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยคาดว่าจะสามารถถอดบทเรียนในปี 2567 สู่การขยายผลในวงกว้าง เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่อุปทานอาหารของประเทศไทย ให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ที่ได้ตั้งไว้ คือ “ประเทศไทยมีความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการ เป็นแหล่งผลิตอาหารที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อชาวไทยและชาวโลกอย่างยั่งยืน”

tag:

ผู้เขียน

บทความที่เกี่ยวข้อง

Subscribe

ติดตามข่าวสาร Gindee Club

About Gindee Club

Connect us

Copyright © 2023 Gindee Club. All right reserved.