กินอยู่อย่างรู้ที่มา
กินอยู่อย่างรู้หน้ารู้ใจ
กินอยู่อย่างมีความหมาย
กินอยู่สบายไม่ดูดายสิ่งแวดล้อม

ข้อความข้างต้นคือสโลแกนของ ‘ปันอยู่ปันกิน’ ตลาดเขียวที่ยืนตัวอยู่เคียงข้างผู้บริโภคที่ใส่ใจต่อการกินมานานถึง 7 ปีแล้ว ปัจจุบัน จุดนัดพบของผู้ผลิตและผู้บริโภค ปักหมุดอยู่ที่ร้านปลาออร์แกนิก ซอยวิภาวดี 22 ทุกวันอาทิตย์สิ้นเดือนเป็นธรรมเนียม เป็นอีกหนึ่งตลาดเขียวที่ผู้ซื้อกับผู้ขายต่างมีสัมพันธ์กันมายาวนาน และนอกจากจะเน้นความออร์แกนิกของผลิตภัณฑ์แล้ว ยังมีเฉดของความหลายที่นำไปสู่มิติเรื่องความยั่งยืนอีกด้วย

ก่อนที่จะโยกย้ายมาประจำการอยู่ที่ร้านปลาออร์แกนิก ปันอยู่ปันกินเคยมีพื้นที่ประจำอยู่ในย่านลาดพร้าวมาก่อน ซึ่งหากย้อนไปยังจุดกำเนิดของตลาดแห่งนี้ ครั้งแรกของปันอยู่ปันกินเปิดตลาดขึ้นที่มูลนิธิเด็กพิการ ก่อนจะขยับไปปักหลักที่ ‘ฮิพอินทรีย์ ฟาร์มวิลล์’ สวนผักในเมืองที่ซอยนาคนิวาส 30

ปันอยู่ปันกิน ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่ม ‘Heart Core Organic’ กลุ่มเพื่อนที่อยากชวนเพื่อนๆ มายกระดับชีวิตตัวเอง หนึ่งในนั้นคือปรินซ์-นคร ลิมปตุปตถาวร ที่ฝังตัวเองอยู่ในวิถีการทำเกษตรธรรมชาติและตลาดเขียวมาเนิ่นนาน พวกเขาเน้นวิธีคิดแบบทำเองใช้เอง และแบ่งปันกันใช้มาก่อน ด้วยแนวคิดที่ว่า ‘ทำเองก็ได้ ไม่ทำก็เลือกเป็น’ ทั้งปันวัตถุดิบอินทรีย์ที่ผลิตกันเอง และน้ำยาในครัวเรือนและของใช้อื่นๆ ที่ทำเองเช่นกัน

กิจกรรมเพื่อบ่มเพาะเรียนรู้ของคนหัวใจอินทรีย์เหล่านี้ เกิดขึ้นผ่านกิจกรรมสัญจร เยี่ยมบ้าน เยี่ยมฟาร์ม และทดลองทำตลาดเล็กๆ ขึ้น กระทั่งก่อตัวเป็นตลาดปันอยู่ปันกิน เพื่อให้เกิดชุมชนของคนที่สนใจในวิถีเดียวกันเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และซื้อขายผลผลิตอินทรีย์โดยไม่ผ่านคนกลาง เพราะผู้ผลิตและผู้ขายคือคนเดียวกัน

“เราเอาชุดความคิดในการพึ่งตัวเองได้มาใช้ ตอนแรกคิดจะทำแบบ CSA (Community Supported Agriculture) แต่ในเวลานั้นเรื่องนี้ยังลึกและไกลเกินไปสำหรับคนไทย เพราะเป็นการลงทุนกับสิ่งที่มองไม่เห็น จึงทำได้กับกลุ่มที่เล็กมากๆ เลยหาวิธีที่ง่ายกว่านั้น ด้วยการทำแบบพรีออร์เดอร์เป็นการทดลอง จนกระทั่งมีโปรดักต์เพิ่มขึ้น มาพาร์ตเนอร์มาร่วมมากขึ้น ก็เกิดเป็นตลาดปันอยู่ปันกิน” นครเล่าให้ฟังถึงการเกิดขึ้นในยุคแรก

หลายปีของการเติบโต หลายคนก็เริ่มขยับขยายวิถีชีวิตของตัวเอง เช่นเดียวกับนครที่ตอนนี้ทุ่มเวลาไปกับการเรียนรู้ครั้งใหม่ในเรื่องการทำเกษตรแบบไบโอไดนามิก และวางตัวอยู่ในฐานะที่ปรึกษา ตลาดปันอยู่ปันกินจึงมี ดร.สุภาภรณ์ อนุชิราชีวะ แห่งร้านปลาออร์แกนิก ซึ่งร่วมงานกับปันอยู่ปันกินมานานดูแลต่อ โดยจัดสรรพื้นที่บนลานกว้างของร้าน ให้ครอบครัวปันอยู่ปันกินได้มาพบปะกันเช่นเดิม

แต่ถึงจะขยับมาสู่พื้นที่แห่งใหม่ใน ปันอยู่ปันกินยังคงหัวใจของการสร้างวิถีกินอยู่อย่างมีความหมายอย่างแน่วแน่ สมาชิกของตลาดที่ต้องผ่านการคัดเลือกจากทีมงาน ล้วนมีพื้นฐานความคิดและความตั้งใจในการผลิตสินค้าที่ดีและปลอดภัยทั้งต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม ทั้งวัตถุดิบอินทรีย์ ผักผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารแปรรูป อาหารพร้อมรับประทาน ข้าวของเครื่องใช้ งานหัตถกรรมต่างๆ

การซื้อขายแบบพรีออร์เดอร์ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ปันอยู่ปันกินใช้เป็นแนวทางตั้งแต่ต้น ในช่วงการระบาดของโควิดที่เปิดตลาดไม่ได้ สินค้าของผู้ผลิตส่งมาถึงมือลูกค้าผ่านการพรีออร์เดอร์และจัดส่งแบบ Grab&Go กระทั่งสถานการณ์ดีขึ้น ตลาดปันอยู่ปันกินก็กลับมาเปิดพื้นที่ให้คนรักการบริโภคแบบอินทรีย์เข้ามาพบปะกับผู้ผลิตอีกครั้ง โดยสามารถซื้อขายกันผ่านการพรีออร์เดอร์และวอล์กอินได้ตามสะดวก นอกจากนี้ยังมีบริการส่งสินค้าถึงหน้าบ้านผ่านบริการของไรเดอร์ต่างๆ ด้วย

ที่นี่จึงเป็นอีกจุดที่น่าสนใจสำหรับใครที่มองหาสินค้าดีๆ จากผู้ผลิตที่ตั้งใจดี ในเวลากำลังดี 10.00-15.00 น. ทุกวันอาทิตย์สิ้นเดือน