กินสบายใจ Corner มุมผักอินทรีย์ที่ขยับเข้าใกล้คนกินยิ่งกว่าเดิม
#ซื้อเราเซฟโลก -2°c เป็นแฮชแท็กที่เราคุ้นเคยของกินสบายใจช็อป ร้านจำหน่ายผลผลิตอินทรีย์ของโครงการกินสบายใจ โดยมูลนิธิสื่อสร้างสุข ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอาหารปลอดภัยด้วยเกษตรอินทรีย์อย่างยั่งยืน เพื่อสุขภาวะที่ดีและเตรียมรับมือกับภัยพิบัติ จังหวัดอุบลราชธานี ด้วยการพัฒนาเครือข่ายเกษตรกรอินทรีย์ และส่งเสริมการบริโภคด้วยการจัดตลาดเขียว ทั้งเกิดร้านกินสบายใจช็อปในห้างสรรพสินค้าประจำจังหวัด
ถึงตอนนี้ กินสบายใจขยับตัวอีกก้าว จากการขยายความร่วมมือของผู้ประกอบการ สร้างช่องทางให้ผู้บริโภคเข้าถึงผักอินทรีย์ได้มากขึ้น ด้วยการเปิด ‘กินสบายใจ Corner’ มุมเล็กๆ ที่ผักอินทรีย์ของเกษตรกรอินทรีย์ในเครือข่าย จะได้มาวางอยู่เคียงคู่เนื้อที่มั่นใจได้ถึงมาตรฐานการผลิต ที่ร้านเนื้อดี Ubon Premium Meat
วิลาสินี จันทรุกขา เกษตรกรอินทรีย์ที่เข้าร่วมโครงการกินสบายใจ ปลูกผักอินทรีย์เพื่อนำมาประกอบอาหารในเมนูร้านบ้านหมื่นปี ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว และเป็นเจ้าของกิจการร้านเนื้อดี ซึ่งจำหน่ายเนื้อหมูอนามัยคุณภาพมาตรฐานเบทาโกร เล่าว่า คนในชุมชนส่วนหนึ่งเป็นสาวกชาบูหมูกระทะ ที่มักจะมาซื้อเนื้อหมู เนื้อวัว และไข่สดในร้านไปทำเมนู เธอจึงคิดต่อว่า ถ้าลูกค้าได้กินผักที่ดี ก็จะเป็นการส่งมอบสุขภาพดีๆ ให้เกิดขึ้นกับคนในชุมชนด้วย
การส่งต่อผักที่สามารถกินได้อย่างปลอดภัย รู้ที่มาที่ไป ในมุมกินสบายใจ Corner จึงเกิดขึ้น และปัจจุบันมีเกษตรกรในเครือข่ายประมาณ 5-10 ครัวเรือน เป็นผู้ส่งผักเข้ามาที่ร้านนี้ และพร้อมเปิดรับเกษตรกรที่จะนำสินค้ามาจำหน่าย โดยสมัครผ่านโครงการกินสบายใจเพื่อการันตีมาตรฐาน
“ตั้งแต่มีการระบาดของโควิด คนเกิดการตื่นตัว คนเริ่มรักตัวเอง และสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น เราเองก็อยากขยายฐานเรื่องอาหารปลอดภัย อย่างน้อยสมาชิกครอบครัว สมาชิกเครือข่าย และคนในชุมชนใกล้เคียง จะได้เข้าสู่สุขภาวะอาหารที่ปลอดภัยและยั่งยืน” วิลาสินีบอกเล่าความคิดอันเป็นที่มาของกินสบายใจ Corner เพื่อรวมวัตถุดิบดีๆ เอาไว้สำหรับผู้บริโภค และหวังว่าพื้นที่แห่งนี้จะทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงอาหารปลอดภัยได้ง่ายขึ้น
ส่วนปฏิมาพร สมานชัย เกษตรกรอินทรีย์กินสบายใจ ซึ่งนำผลผลิตวางจำหน่ายในตลาดเขียวและกินสบายใจช็อปอยู่ก่อนหน้า และได้กระจายผลผลิตมาสู่กินสบายใจ Corner กล่าวด้วยความยินดีว่า “เป็นการยกระดับสินค้าเราให้ดูดีและเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น และเป็นกำลังใจให้เกษตรกรในการผลิตผักอินทรีย์ออกมา
“ที่นี่จะเป็นแหล่งเก็บข้อมูลอีกแหล่งหนึ่งของเราอีกแหล่งหนึ่งนอกจากกินสบายใจช็อป ว่าผู้บริโภคต้องการผักประเภทไหนในแต่ละรอบการผลิตและฤดูกาล นำไปสู่การวางแผนการปลูกของเราเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค”
ด้านตัวแทนผู้บริโภคกินสบายใจ เภสัชกรหญิง กาญจนา มหาพล ได้ยก 5 สิ่งดี ซึ่งเกิดขึ้นในคอนเซ็ปต์ From Farm to Table เช่นนี้ อันประกอบด้วย Good Farm (ฟาร์มดี แปลงผักดี มีมาตรฐาน PGS เป็นหลักประกัน) Good Harvest (การเก็บเกี่ยวที่ถูกต้องตามฤดูกาล สำคัญต่อคุณภาพของผลผลิต) Good Logistics (การขนส่งที่ดี เพื่อรักษาคุณภาพของผลผลิต) Good Market (ตลาดสดที่มีมาตรฐาน สร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภค) และ Good Price (ผลผลิตที่ดี ในราคาที่เหมาะสม)
ในขณะที่ คนึงนุช วงศ์เย็น ผู้จัดการโครงการกินสบายใจ ให้ความเห็นว่า ‘ความสะดวก’ เป็นโจทย์สำคัญในการทำให้ผู้บริโภคอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และไอเดียของกินสบายใจ Corner ซึ่งเกิดจากร้านเนื้อดี ก็ตอบโจทย์นี้เป็นอย่างดี
“หน้าที่เราคือผู้จุดประกายหรือเชื่อมโยง เมื่อมีคนที่มองไอเดียแบบเรา เห็นคุณค่าแบบเรา และอยากช่วยกันขยายหรือสานต่อให้เกิดขึ้น กินสบายใจ Corner เป็นความร่วมมือที่ทำให้เกิดการขยายเรื่องอาหารออร์แกนิก และเป็นประโยชน์ที่เกื้อกูลกันระหว่างผู้บริโภคและเกษตรกร นำไปสู่การสนับสนุนซึ่งกันและกัน และจะนำไปสู่เรื่องความยั่งยืนด้วย”
โมเดล ‘กินสบายใจ Corner’ จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือ ในการกระจายผักอินทรีย์สู่ผู้บริโภคในวงที่กว้างขึ้น ซึ่งพลังของผู้ประกอบการและผู้บริโภคสีเขียว คือส่วนสำคัญในการขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ เกิดการผลิตที่มากขึ้น สร้างรายได้ต่อเกษตรกรได้มากขึ้น เป็นพื้นฐานสำคัญของความยั่งยืนอย่างแท้จริง