ตลาดสีเขียว กับความสัมพันธ์ของ 3P เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
ในโลกของการทำธุรกิจ หลักการของความยั่งยืนที่บรรจุเอาไว้ด้วย 3P ซึ่งประกอบด้วย People, Profit, Planet ถูกนำมาบอกเล่าถึงแนวคิดของการสร้างแบรนด์ บนความเชื่อที่ว่า ธุรกิจใดก็ตาม เมื่อดำรงอยู่บนฐานของการคำนึงถึงผู้คน ผลกำไร และโลก อย่างไม่ละทิ้งกัน ธุรกิจนั้นจะเดินต่อไปได้ในระยะยาวอย่างแข็งแรง เมื่อมองเข้ามาในการกำเนิดเกิดขึ้นของตลาดสีเขียว จะเห็นได้ว่ามีกระบวนการที่ผูกโยงความสัมพันธ์ของคำสำคัญนี้เอาไว้ไม่ต่างกัน ด้วยการดำเนินงานของตลาดสีเขียวนั้นคำนึงประโยชน์ต่อผู้คน ที่ต้องการสินค้าที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ ขณะเดียวกันก็มีที่มาจากวิธีการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ทั้งยังช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศ โดยที่ผู้ผลิตมีรายได้หรือผลกำไรจากกิจการ ซึ่งการครอบคลุมหลักการของ 3P จะทำให้ตลาดสีเขียวสามารถครองตัวเองเอาไว้ได้อย่างยั่งยืน

ที่มาของหลักการนี้ เกิดจากแนวคิด ‘Triple Bottom Line’ ของ John Elkington ผู้ทรงอิทธิพลระดับโลกในด้านความรับผิดชอบและการพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน เขาเขียนหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่ง ชื่อว่า ‘Cannibal With Forks’ ซึ่งตีพิมพ์เมื่อปี ค.ศ.1997 ด้วยใจความสำคัญว่า ในการทำธุรกิจจะเปลี่ยนการวัดผลความสำเร็จไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยจากที่เคยมุ่งไปยังผลกำไรเพียงอย่างเดียว จะเปลี่ยนมาสู่การวัดผล 3 ด้านอย่างสมดุล เพื่อสอดรับกับโลกยุคใหม่
นั่นคือ People หรือผู้คน โดยธุรกิจหรือกิจการนั้นจะต้องให้ความสำคัญกับคนรอบข้างมากขึ้น, ดีต่อ Planet หรือโลก ผ่านกระบวนการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อโลก และ Profit หรือผลกำไร ซึ่งยังเป็นสิ่งสำคัญตั้งแต่อดีต และต่อเนื่องไปถึงอนาคต เพราะหากไม่เกิดผลกำไร ธุรกิจก็ไม่อาจเดินหน้าได้ต่อ
ผู้คนในตลาดสีเขียว จึงหมายถึงเกษตรกร ผู้ผลิต และผู้บริโภค ที่ความมุ่งมั่นของเกษตรกรและผู้ผลิตจากต้นทาง ซึ่งตั้งใจผลิตสินค้าและอาหารปลอดภัย ปราศจากสารเคมีปนเปื้อนที่เป็นพิษต่อผืนดิน แหล่งน้ำ อากาศ และเมล็ดพันธุ์ รวมไปถึงสุขภาพของผู้บริโภค และการใช้ชีวิตของคนในชุมชนใกล้เคียง ในขณะเดียวกันยังมีส่วนช่วยดูแลธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้โลกใบนี้น่าอยู่ในระยะยาว

ในความมุ่งมั่นของผู้ผลิตที่เป็นมิตรต่อโลก และคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค ย่อมมีผู้บริโภคเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ในการทำให้การเชื่อมต่อนี้เป็นไปอย่างราบรื่น เกิดการซื้อขายสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต อีกด้านก็เพื่อสุขภาพของตัวเองและครอบครัวเป็นหลัก สุดท้ายผลพวงที่ได้คือ การมีส่วนร่วมช่วยโลกใบนี้ทางอ้อม
เพราะเมื่อต้นทางหรือผู้ผลิตตั้งใจทำอย่างดี มีผู้บริโภคสนับสนุนอยู่กลางทาง ปลายทางหรือโลกจึงสมบูรณ์ เพราะการทำเกษตรที่ไม่ใช้สารเคมีในทุกขั้นตอน บำรุงดินและบำรุงพืชด้วยปุ๋ยอินทรีย์ ใช้แหล่งน้ำที่มีระบบกรองแบบธรรมชาติปราศจากสารปนเปื้อน และอยู่ห่างไกลจากแหล่งมลภาวะ ช่วยส่งผลให้สมดุลของระบบนิเวศ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กลับคืนสู่โลกและผู้คนได้อย่างยั่งยืน
ส่วนผลกำไรเป็นตัวเชื่อมสุดท้ายที่จะทำให้เกิดความยั่งยืน ด้วยผู้ผลิตมีช่องทางการจัดจำหน่าย เกิดเป็นอาชีพและรายได้ที่มั่นคง ผู้บริโภคมีแหล่งอาหารปลอดภัยให้เลือกซื้อได้มากขึ้น ตลาดสีเขียวจึงกลายเป็นภาคธุรกิจตรงกลาง ในการรองรับและกระจายผลผลิตที่กำลังขยายวงไปอย่างเติบโต ทั้งยังเป็นกระบอกเสียงที่ทำให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของการช่วยกันฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และเปลี่ยนโลกเพื่อสร้างอนาคตให้ดีขึ้น
ที่มาข้อมูล:
1. fyi.extension.wisc.edu/…/safe-healthy-what-does-organic-r…/….
2. www.gcu.edu/…/people-planet-profit-looking-triple-bottom-li…
3. www.sme.go.th/uplo…/mod_download/download-20210806093049.pdf