งานแสดงผลผลิตเกษตรธรรมชาติ ‘ปลูกดี กินดี วิถีเกษตรธรรมชาติ’ ที่ลพบุรี
หากได้ติดตามการทำงานของมูลนิธิเอ็มโอเอไทย คงเคยได้ยินชื่องาน ‘ปลูกดี กินดี วิถีเกษตรธรรมชาติ’ กันอยู่บ้างแล้ว เล่าให้ฟังเพิ่มเติมนิดหนึ่งว่า เดิมทีมูลนิธิเอ็มโอเอไทยจัด ‘งานแสดงผลผลิตเกษตรธรรมชาติ’ เชิญชวนเกษตรกรนำผลผลิตมาประกวด เพื่อเป็นแนวทางในการแปลกเปลี่ยนองค์ความรู้และพัฒนาวิถีการเกษตรร่วมกัน
ก่อนจะปรับเพิ่มชื่อ ‘ปลูกดี กินดี วิถีเกษตรธรรมชาติ’ เพื่อให้เข้าถึงทั้งกลุ่มเกษตรกรและผู้บริโภคมากขึ้นในปี 2560 และเริ่มขยายไปในพื้นที่ต่างๆ ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งในปีนี้ มูลนิธิฯ จัดเทศกาล ‘ปลูกดี กินดี วิถีเกษตรธรรมชาติ’ 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ลำปาง อุตรดิตถ์ และลพบุรีซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ส่วนครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่จังหวัดสระแก้ว ในวันที่ 7 มีนาคมที่จะถึงนี้
เทศกาลประจำปีของมูลนิธิเอ็มโอเอไทย ณ ศูนย์เครือข่ายปราชญ์ชาวบ้าน มูลนิธิเอ็มโอเอไทย จังหวัดลพบุรี เป็นการจัดขึ้นครั้งที่ 12 โดยร่วมกับเทศบาลตำบลท่าศาลา มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี โรงเรียนบรรจงรัตน์ และสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี โดยการสนับสนุนของ สสส.
ภายในงานมีทั้งการจัดแสดงและจัดจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร จากเกษตรกรที่ผ่านการเรียนรู้และปฏิบัติตามวิถีเกษตรธรรมชาติของมูลนิธิเอ็มโอเอจากทั่วประเทศไทย มีกิจกรรมต่างๆ ให้ร่วมสนุก และรับประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งการจัดดอกไม้ พิธีชงชา และพลังธรรมชาติจากมูลนิธิเอ็มโอเอไทย และกิจกรรมอื่นๆ จากหน่วยงานในเครือข่าย
อาทิ เกษตรธรรมชาติในเชิงวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิทยาศาสตร์รังสิต, ทำกระเป๋าผ้า Eco print โดยศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน (กศน) จังหวัดลำปาง, นิทรรศการจากนักเรียนโรงเรียนเขาหมูมัน และการตรวจหาสารเคมีปนเปื้อนในเลือด จากสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี
พิธีลงนามความร่วมมือ (MOU) ‘การพัฒนาชุมชนสุขภาวะ’ ร่วมกัน 4 หน่วยงาน ได้แก่ เทศบาลตำบลท่าศาลา มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี มูลนิธิเอ็มโอเอไทย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อขับเคลื่อนวิถีเกษตรธรรมชาติเพื่อสุขภาวะในทุกภาคส่วน ก่อเกิดพื้นที่ตนแบบในการต่อยอดสู่วงกว้าง
นอกจากนี้ ยังจัดให้มีเสวนา ‘การสร้างพลเมืองอาหารสู่การพัฒนาชุมชนสุขภาวะ’ ภายใต้แนวคิด 1 ชุมชน 1 รพสต. 1 โรงเรียน โดยสาธารณสุขอำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี
สาธิตการทำอาหาร จากวัตถุดิบเกษตรธรรมชาติ ตามฤดูกาล โดยเชฟจิ้น-กวีวิรัญจ์ บัวสุวรรณ จาก Slow Life บางกอก ซึ่งได้เลือกสรรวัตถุดิบจากเกษตรกรภายในงานมาทำเมนู ‘แกงหลอก’ อาหารพื้นถิ่นของจังหวัดเพชรบุรี ที่มีรสเผ็ดร้อน อุดมด้วยสมุนไพรขับลม สำหรับปรับสมดุลธาตุลมและไฟ เหมาะสำหรับช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง
กิจกรรม ‘เกษตรกรพบปะผู้บริโภค’ วงสุนทรียสนทนาระหว่างผู้บริโภคและเกษตรกรตัวจริง เป็นบทสนทนาที่เต็มไปด้วยความรู้ จากประสบการณ์จริง และกำลังใจดีๆ ที่ทั้งสองฝ่ายมอบให้กัน บนหนทางของเกษตรธรรมชาติและสุขภาวะ
ปิดท้ายด้วยไฮไลท์ของงาน ‘หิ้วตะกร้าลงแปลงผัก’ ที่ชวนให้เราหิ้วตะกร้าคนละใบ ตัดผักต้นที่ชอบ โดยมีอาจารย์สุชาญ ศีลอำนวย ผู้จัดการโครงการ และเลขานุการมูลนิธิเอ็มโอเอไทย (MOA Thai) ให้คำแนะนำวิธีตัดผักในแปลงที่ถูกต้องตามแนวทางเกษตรธรรมชาติ
“เราใช้มีดตัดตรงโคนต้น เด็ดใบข้างล่างที่ไม่สวยทิ้งไว้ในแปลงเป็นปุ๋ยได้ รวมทั้งรากที่เราไม่ขุดขึ้นมาก็จะย่อยสลาย และกลายเป็นตัวที่ช่วยให้ดินโปร่ง ร่วนซุย เราสามารถหยอดเมล็ดในหลุมเดิมที่รากย่อยสลายแล้วได้ ต้นใหม่ก็จะสามารถหยั่งรากลงดินได้ง่ายและลึกขึ้น เป็นการปรับปรุงโครงสร้างดินไปในตัว โดยไม่ต้องยกแปลงขึ้นมาปรุงดินใหม่เลย”
เพียงแค่การเก็บผักในแปลงก็มีรายละเอียดและความลุ่มลึก ได้เห็นได้ฟังอย่างนี้แล้วยิ่งชวนให้อยากรู้จักมูลนิธิเอ็มโอเอไทย และวิธีการปลูกตามหลักวิถีเกษตรธรรมชาติมากขึ้น
งานนี้นอกจากได้เลือกซื้อพืชผักเกษตรธรรมชาติและสินค้าจากเครือข่ายกลับมาเต็มไม้เต็มมือ ยังได้ความรู้และประสบการณ์อย่างเต็มที่ เป็นหนึ่งวันที่เต็มอิ่มทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ
